7/398 Vipawadee 19 Vipawadee Rangsit Road Chatuchak, Chatuchak Bangkok 10900
Always Open (24/7 Service)
วิธีทำความสะอาดภายในรถ ให้ปลอดโควิด19

รวม 7 วิธี ทําความสะอาดภายในรถยนต์ อย่างไรให้ปลอดภัยจากโควิด-19

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวในสถานะการที่มีเชื้อโรค แบคทีเรีย แพร่กระจายอยู่มากมาย โดยเฉพาะเชื้อโควิด-19 ก็ไม่ใช่เรื่องที่ปลอดภัย 100% ดังนั้นจะเห็นได้ว่าในปัจจุบัน คนส่วนมากจะให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดภายในรถยนต์กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการล้างทำความสะอาด การฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ หรือการอบโอโซนรถยนต์ เพื่อรักษาภายในรถยนต์ให้ทุกการเดินทางปลอดภัยจากชื้อโรคตัวร้ายที่มองไม่เห็น วันนี้เรามีวิธีการทำความสะอาดรถยนต์ให้ปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19 มาฝากอย่างละเอียดในหัวข้อด้านล่างต่อไปนี้

วิธีการทําความสะอาดภายในรถยนต์ มีอะไรบ้าง?

การทำความสะอาดภายในรถยนต์ สามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็จะมีขั้นตอน วิธีการ และประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อโรคที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งวิธีที่นิยมใช้ได้แก่

1. อบโอโซนฆ่าเชื้อโรค

เป็นการฆ่าเชื้อภายในรถยนต์โดยใช้เครื่องอบโอโซน ซึ่งโอโซนมีสถานะเป็นแก๊ส ทำให้สามารถการกระจายตัวแทรกซึมไปยัง ซอกมุมเล็กๆ ทีอยู่ภายในรถยนต์ได้อย่างทั่วถึงกว่าการทำความสำอาดฆ่าเชื้อด้วยวิธีอื่น ซึ่งอกเหนือจากเชื้อโควิด19 ได้สูงถึง 99% ภายใน 5 นาที แล้ว การอบโอโซนภายในรถยนต์ยังมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคนานาชนิดที่ลอยอยู่บนอากาศหรือเกาะติดอยู่ตามชิ้นส่วนภายในรถได้อีกด้วย ซึ่งที่มาของเชื้อโรค แบคทีเรีย และเชื้อราต่างๆภายในรถอาจมาจาก เศษอาหาร อากาศร้อนจากแสงแดด ความชื้นจากเครื่องปรับอากาศ และเชื้อโรคที่ติดตัวเราเข้าไปภายในรถยนต์เป็นต้น

ข้อดีของการอบโอโซนรถยนต์

  • สามารถกำจัดเชื้อรา ไวรัส แบคทีเรีย ได้อย่างรวดเร็ว
  • ช่วยขจัดกลิ่นอับชื้น ภายในรถยนต์ ได้อย่างปลอดภัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและไม่ทิ้งสารเคมีตกค้าง
  • มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคสูงกว่า คลอรีน 3,125 เท่า และ มีประสิทธิภาพสูงกว่าการใช้สารเคมีหรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรคอื่น หลายเท่า
  • สามารถอบโอโซน ฆ่าเชื้อในบริเวณต่างๆที่นอกเหนือจากรถยนต์ได้เช่น ภายในห้องนอน ภายในบ้านออฟฟิศเป็นต้น

ข้อเสียของการอบโอโซนรถยนต์

  • เครื่องอบโอโซนที่ใช้จะต้องเป็นเครื่องที่มีกำลังการผลิตสูง
  • ต้องเปิดรถทิ้งไว้ฟลังการอบโอโซนประมาณ 20 นาทีจึงสามารถใช้รถได้ตามปกติ

อ่านต่อเพิ่มเติม : ข้อควรรู้ก่อนอบโอโซนรถยนต์ คืออะไร? มีแบบไหนบ้าง ช่วยฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้จริงหรือไม่?

2. พ่นฆ่าเชื้อโรค

เป็นการใช้น้ำที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคที่มีส่วนผสมของสารเคมีที่มีฤทธิ์ใยการกำจัดเชื้อโรคเช่น Antiseptics (สารระงับเชื้อ) , Disinfectants (สารฆ่าเชื้อ) และคลอรีน (Chlorine) เป็นต้น โดยใช้วิธีการฉีดพ่นด้วยอุปกร์ต่างๆให้เกิดละออกฝอยที่มีขนาดเล็ก ไปยังพื้นที่ต่างๆ และ อากาศภายในรถยนต์ เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรคต่างๆที่อยู่ภายในรถ

ข้อดีของการพ่นฆ่าเชื้อโรค

  • มีความปลอดภัย ไม่ระคายเคือง และ ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้
  • ไม่มีผลเสียกับอุปกรณ์ต่างๆที่อยู่ภายในรถยนต์
  • ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม
  • สามารถฆ่าเชื้อโรคที่เกาะติด หรือ ลอยอยู่ในอากาศภายในรถยนต์ได้
  • สามารถฉีดพ่นได้ทุกบริเวณที่ต้องการฆ่าเชื้อเช่นภายในบ้าน สถานที่ต่างๆตามอาคาร เป็นต้น

ข้อเสียของการพ่นฆ่าเชื้อโรค

  • การฉีดพ่นอาจจะไม่ทั่วถึงในจุดซอกเล็กๆเท่ากับการอบโอโซน
  • อาจทำให้เชื้อโรคเกิดการฟุ้งกระจายได้

3. น้ำยาทำความสะอาดรถ

เป็นการทำความสำอาดรถยนต์ไปพร้อมๆกับการล้างทำความสำอาด ที่จะช่วยขจัดคราบสิ่งสกปรกที่อยู่ภายในและภายนอกรถยนต์ นอกจากนี้น้ำยาทำความสะอาดรถยนต์ ยังมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคบางชนิดที่เกาะอยู่ภายในรถได้อีกด้วย

ข้อดีของน้ำยาทำความสะอาดรถ

  • สามารถทำไปพร้อมๆกับการล้างทำความสะอาดรถยนต์ได้ทั้งภายในและภายนอก
  • ทำให้รถยนต์ดูใหม่สะอาดขึ้น

ข้อเสียของน้ำยาทำความสะอาดรถ

  • ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อใช้ในการฆ่าเชื้อโรค และไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะ ดังนั้นประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อจึงค่อนข้างน้อย
  • ไม่สามารถทำได้ในซอกหรือจุดเล็กๆ

4. แอลกอฮอล์เช็ดจุดและบริเวณที่เกิดการสัมผัส

เป็นวิธีการฆ่าเชื้อโรคที่สามารถทำได้แบบง่ายๆเพียงใช้แอลกอฮอล์ เช็ดทำความสะอาดบริเวณที่สัมผัสทุกครั้งเพื่อเป็นการป้องกันไม่ใช้เชื้อโรคเจริญเติบโต และช่วยยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้อีกด้วย ซึ่งแอลกอฮอล์ที่ใช้ควรมีความเข้มข้น 70% ขึ้นไป

ข้อดีของการใช้แอลกอฮอล์เช็ดจุดและบริเวณที่เกิดการสัมผัส

  • สามารถทำได้ทันที ทุกครั้งหลังมีการสัมผัส
  • เป็นการช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อโรคต่างๆแบบเฉพาะจุด
  • ช่วยยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อโรค

ข้อเสียของการใช้แอลกอฮอล์เช็ดจุดและบริเวณที่เกิดการสัมผัส

  • ไม่สามารถฆ่าเชื้อโรคที่อยู่ภายในรถยนต์ได้ทุกจุด
  • ไม่สามารถฆ่าเชื้อที่ลอยอยู่ในอากาศภายในรถยนต์ได้

5. ฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อในอากาศ

เป็นผลิตภัณฑ์มีการวิจัยและรับรองการฆ่าเชื้อรับรองจากสถาบันชั้นนำระดับสากล และ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และได้ขึ้นทะเบียน อย เพื่อเป็นการการันตีว่า สามารถฆ่าเชื้อโรคได้จริง แต่ อ่อนโยนต่อผู้ใช้งาน เด็กและสัตว์เลี้ยง

ข้อดีฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อในอากาศ

  • ช่วยฆ่าเชื้อโรคในอากาศภายในรถยนต์ได้
    -ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ทั้งกับเด็ก และสัตว์เลี้ยง
  • พกพาได้สะดวกและทำได้ง่ายในทุกๆที่

ข้อเสียฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อในอากาศ

  • อาจทำให้เชื้อโรคฟุ้งกระจายได้
  • ไม่สามารถเข้าถึงในช่องแอร์หรือซอกแคบ ๆภายในรถยนต์ได้

6. การหมั่นล้างทำความสะอาดรถยนต์

เป็นการล้างทำความสะอาดรถยนต์ ทั้งภายในและภายนอกรถยนต์ ให้สะอาดปลอดภัยจากสิ่งสกปรกต่างๆที่มักจะมีเชื้อรา แบคทีเรีย และเชื้อโรคแฝงตัวอยู่

ข้อดีของการหมั่นล้างทำความสะอาดรถยนต์

  • รถยนต์จะมีความใหม่สะอาดอยู่เสมอ
  • ลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อโรคที่อยู่ภายในรถยนต์

ข้อเสียของการหมั่นล้างทำความสะอาดรถยนต์

  • ไม่สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ภายในรถได้ อย่างมีประสิทธิภาพเท่ากับการอบโอโซน การพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ
    (แนะนำให้ทำควบคู่กับการอบโอโซนรถยนต์เพื่อให้ภายในรถปลอดภัยจากเชื้อโรคที่มองไม่เห็น)

7. การป้องกันตัวเองขณะอยู่ในรถ

นอกจากวิธีการทำความสะอาดภายในแล้ว เรายังสามารถป้องกันตัวเองขณะอยู่ภายในรถยนต์ด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัยและการล้างมือด้วแอลกอฮอล์ 70% ก่อนขึ้นและหลังลงจากรถได้เช่นกัน ทั้งนี้เพื่อเป็นการปฏิบัติตามมาตรการโควิด19 ของการเดินทางด้วยรถยนต์ และยังลดการแพร่กระจายและรับเชื้อให้ได้มากที่สุด อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ทำให้ภายในรถปลอดเชื้อมากที่สุดอีกด้วย

สรุปใช้วิธีไหนดีและได้ผล

วิธีการอบโอโซนภายในรถยนต์ ถือเป็นวิธีการฆ่าเชื้อโรค และ แบคทีเรียที่ฝังตัวอยู่ในส่วนต่างๆ ภายในรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงถึง 99% นอกจากนี้เครื่องอบโอโซน ยังมีกำลังการผลิตได้สูงถึง 40,000 mg/ชั่วโมง ช่วยให้ฆ่าเชื้อที่ลอยอยู่บนอากาศและเข้าถึงทุกซอนทุกมุมภายในรถยนต์ได้มากกว่าวิธีอื่น รวมไปถึง รถรับส่งผู้ป่วยโควิด PocoCar ก็ใช้วิธีการพ่นฆ่าเชื้อภายในห้องโดยสารและอบโอโซนอัตโนมัติเพื่อฆ่าเชื้อในอากาศอีกรอบในทุกเที่ยววิ่งหลังให้บริการ นอกจากนี้เครื่องอบโอโซนยังสามารถนำไปใช้กับ ในห้องนอน พื้นที่ของออฟฟิศ และส่วนต่างๆที่ต้องการได้อีกด้วย ซึ่งระยะเวลาที่ใช้จะขึ้นอยู่กับขนาดของพี่ในแต่ละจุดนั่นเอง