เนื่องด้วยสถานะการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดอย่างหนักทั่วประเทศ ทำให้วัคซีนเข้ามีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะประชาชนจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการฉีดเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย และเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับสังคม ซึ่งวัคซีนที่ได้รับจะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและลดความรุนรงที่เกิดจากโรคได้ โดยวัคซีที่ใช้ภายในประเทศ จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ วัคซีนที่รัฐบาลจัดหาให้ และ วัคซีนทางเลือก ที่สามารถอ่านรายละเอียดได้ในหัวข้อด้านล่างนี้
วัคซีนทางเลือก คืออะไร?
วัคซีนทางเลือก คือ วัคซีนที่รัฐบาลได้อนุญาตให้โรงพยาบาลเอกชน จัดซื้อผ่านองค์การเภสัช เป็นวัคซีนที่อยู่นอกเหนือจากวัคซีนที่อยู่ในแผนการจัดซื้อของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชนที่ต้องการรับวัคซีนชนิดอื่น นอกเหนือจากวัคซีที่รัฐบาลได้จัดสรรและเตรียมให้ประชาชน ซึ่งวัคซีนทางเลือกจะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในการต่อสู้กับโรคระบาดนี้ได้
วัคซีนทางเลือก มีอะไรบ้าง?
รัฐบาลได้อนุญาตให้โรงพยาบาลเอกชนนำเข้าวัคซีน เพื่อเป็นแรงสนับสนุนให้คนไทยเกิดความมั่นใจว่าจะสามารถรับมือกับเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งวัคซีทางเลือกที่นำเข้ามาใช้ภายในประเทศมี 3 ชนิดหลักด้วยกันดังนี้
1. โมเดอร์น่า
เป็นวัคซีที่นำเข้ามาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ชื่อวัคซีน mRNA-1273 ใช้เทคนิคการผลิต mRNA ประสิทธิภาพของวัคซีนอยู่ที่ 94.5% ใช้วิธีการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 2 ครั้ง โดยเว้นระยะเวลาห่างกัน 4 สัปดาห์ โมเดอร์น่าเป็นวัคซีนที่มี 36 ประเทศทั่วโลกที่อนุมัติให้ใช้
2. ไฟเซอร์
เป็นวัคซีนที่นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา ชื่อวัคซีน BNT162 ใช้เทคนิคในการผลิต mRNA วัคซีนมีประสิทธิภาพสูงถึง 90-95% ใช้วิธีการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 2 ครั้ง โดยแต่ละครั้งจะต้องมีการเว้นระยะเวลาห่างกัน 3 สัปดาห์ ไฟเซอร์เป็นวัคซีนที่มี 50 ประเทศทั่วโลกที่อนุมัติให้ใช้
3. ซิโนฟาร์ม
เป็นวัคซีนที่นำเข้าจากประเทศจีน ชื่อวัคซีน BBIBP-CorV เป็นวัคซีนโควิด 19 ที่ผลิตโดยบริษัท China National Pharmaceutical Group (CNBG) สาธารณรัฐประชาชนจีน ใช้เทคนิคการผลิตโดยการนำเชื้อไวรัสสายพันธุ์ WIV04 และ HB02 มาเลี้ยงขยายจำนวนมาก แล้วนำมาฆ่าด้วยสารเคมี เช่น เบตาโพรพิโอแล็กโท ฟอร์มาลดีไฮด์ หรือความร้อน มีประสิทธภาพสูง 79% ใช้วิธีฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 2 ครั้งโดยแต่ละครั้งจะต้องมีการเว้นระยะเวลาห่างกัน 28 วัน ซิโนฟาร์มเป็นวัคซีนที่มี 41 ประเทศทั่วโลกที่อนุญาตให้ใช้
วัคซีนที่ภาครัฐจัดหาให้ มีอะไรบ้าง?
ในปัจจุบันรัฐบาลได้มีการจัดหาวัคซีนเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ไว้สำหรับฉีดให้กับประชาชน เพื่อเป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย โดยวัคซีนที่รัฐบาลจัดหาให้ ทีมแพทย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเป็นผู้จัดสรรว่า ประชนกลุ่มไหนเหมาะสำหรับการฉีดวัคซีนชนิดใด ซึ่งวัคคซีนที่รัฐบาลเลือกนำเข้ามาไว้บริการให้แก่ประชาชนได้แก้
1. ซิโนแวค (Sinovac)
เป็นวัคซีนที่รัฐบาลนำเข้าจากประเทศจีน ชื่อวัคซีน คือ Coronavac ผลิตโดยใช้เทคนิค การเพราะเชื้อตาย วัคซีนมีประสิทธิภาพ 50.3% ใช้วิธีฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 2 ครั้งโดยแต่ละครั้งจะต้องมีการเว้นระยะเวลาห่างกัน 2-4 สัปดาห์ ใน วัคซีนตัวนี้ มี 3 ประเทศ ที่อนุมัติให้ใช้
2. แอสตราเซเนกา (AstraZeneca)
เป็นวัคซีนที่รัฐบาลนำเข้าจากประเทศอังกฤษ ชื่อวัคซีน AZD1222 ใช้เทคนิคในการผลิต Adenovirus พาหะ ประสิทธิภาพของวัคซีนอยู่ที่ 70.4% ใช้วิธีการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 2 ครั้ง โดยเว้นระยะเวลาห่างกัน 4 สัปดาห์ วัคซีนตัวนี้มี 7 ประเทศ ที่อนุมัติให้ใช้
3. จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Johnson & Johnson)
เป็นวัคซีนจากประเทศสหรัฐอเมริกา ใช้เทคนิคการผลิต Adenovirus-based โดยฝากสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 เข้าไป ทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสมีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด 94% ใช้วิธีการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 2 ครั้ง โดยเว้นระยะเวลาห่างกัน 56 วัน เป็นวัคซีนตัวใหม่ที่รัฐบาลกำลังสั่งซื้อ 5-10 ล้านโดส (ขึ้นทะเบียน อย.แล้ว)
4. สปุตนิก วี (Sputnik V)
เป็นวัคซีนจากรัฐบาลรัสเซีย ใช้เทคนิคการผลิต ไวรัลเวกเตอร์ (Viral vector) คือ การใช้ไวรัสที่ทำให้อ่อนกำลังลงแล้วไม่ทำให้เกิดโรค 2 ชนิด มาตัดต่อใส่สารพันธุกรรมของโคโรน่าไวรัสลงไป เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน ประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด 97.6 % ใช้วิธีการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 2 ครั้ง โดยเว้นระยะเวลาห่างกัน 3 สัปดาห์ เป็นวัคซีนตัวใหม่ที่รัฐบาลกำลังสั่งซื้อ 5-10 ล้านโดส (ขึ้นทะเบียน อย.แล้ว)
วัคซีนทางเลือกและวัคซีนที่รัฐจัดให้ ต่างกันอย่างไร?
วัคซีนทางเลือก เป็นวัคซีนที่ รัฐบาลอนุญาตให้โรงพยาบาลเอกชนเป็นผู้จัดหาและนำเข้ามาเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ประชาชน ซึ่งประชาชนจำเป็นจะต้องศึกษาข้อมูลของวัคซีน และเป็นผู้ตัดสินใจเลือกวัคซีด้วยตัวเอง ซึ่งวัคซีนทางเลือกหลักที่โรงพยาบาลเอกชนได้มีการนำเข้ามาเพื่อให้บริการแก่ประชาชน ได้แก่ โมเดอร์น่า ไฟเซอร์ ซิโนฟาร์ม เป็นต้น (เพื่อให้ประชาชนสามารถเลือกรับวัคซีนนอกเหนือจากวัคซีนที่ภาครัฐจัดหาได้ แต่ต้องชำระค่าวัคซีนเอง) ส่วนวัคซีนที่รัฐบาลจัดหาให้ เป็น วัคซีนที่รัฐบาลจัดสรรให้กับประชาชนโดยผ่านการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ได้แก่ ซิโนแวค , Astrazeneca , Johnson & Johnson , สปุตนิก วี (Sputnik V) เป็นต้น
วัคซีนทางเลือก ยี่ห้อไหนดี?
วัคซีนทางเลือกเป็นวัคซีที่ผ่านการคัดเลือกและจัดซื้อจากโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งได้รับอนุญาตจากรัฐบาล โดยจะอยู่ภายใต้การรับรองจากองค์การเภสัชเพื่อใช้ในการรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพ โดยวัคซีนแต่ละตัวได้ผ่านการวิจัยจากหลายสถาบัน ว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ดังนี้
- โมเดอร์น่า มีประสิทธิภาพของวัคซีน 94.5%
- ไฟเซอร์ มีประสิทธิภาพของวัคซีน 90-95%
- ซิโนฟาร์ม มีประสิทธิภาพของวัคซีน 79%
วัคซีนทางเลือก ราคาแพงไหม ซื้อได้ที่ไหนบ้าง?
การฉีดวัคซีนทางเลือก ราคาวัคซีอาจมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของวัคซีนแต่ละตัว ซึ่งราคาจะมีการควบคุมโดยใช้หลักการของคณะทำงานพิจารณาการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยจะมีการควบคุมให้มีอัตราที่เท่ากัน ในวัคซีนยี่ห้อเดียวกัน
สรุป
การฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด-19 ถือเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันหรือสร้างภูมิต้านทานต่อโรค และ การฉีดวัคซีนทุกชนิดยังมีผลการวิจัยจากหลาบสถาบันออกมายืนยันแล้วว่า จะช่วยลดความรุนแรงของโรคได้ ดังนั้นจึงหลายหน่วยงานที่มีการนำเข้าวัคซีมาเป็นตัวเลือกให้กับประชาชน เพื่อให้ประชาชนสามารถเลือกรับวัคซีนได้ตามความเหมาะสมและตามความต้องการได้ เพราะวัคซีนแต่ละตัวจะมีประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน แต่ทั้งนี้ประสิทธิภาพของวัคซีนจะต้องขึ้นอยู่กับ สถานการณ์ของเชื้อที่กลายพันธุ์ ณ ขณะนั้นด้วย